ในเกม Star Resonance ซึ่ง Forest Speaker เป็นตัวละครหลักที่มีบทบาทในการรักษาทีม วันนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการเล่นของ Forest Speaker ใน Star Resonance ซึ่งมีสองแนวทางคือ "Punishment Flow" และ "Healing Flow" แนวทาง Punishment Flow มุ่งเน้นไปที่การโจมตีและป้องกันควบคู่กัน โดยแปลงความเสียหายเป็นการรักษาพร้อมกับการทำดาเมจ ส่วนแนวทาง Healing Flow มุ่งเน้นไปที่การอยู่รอดของทีม โดยให้ความสำคัญกับโล่ลดความเสียหายและการรักษาแบบกลุ่ม หากคุณต้องการเล่นตัวละครนี้ได้ดี ก็ควรศึกษาแนวทางการเล่นของทั้งสองแนวทางก่อน!

หัวใจของแนวทาง Punishment Flow คือการเชื่อมโยงสกิลและการสมดุลของค่าสถานะ เริ่มต้นด้วยการใช้ "Symbiotic Mark" บนตัว Tank ทำให้ความเสียหายที่เราสร้างขึ้น 30% ภายใน 10 วินาทีถัดไปจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังชีวิตของเป้าหมาย ต่อจากนั้นใช้ "Wild Seed" เพื่อเพิ่มเอฟเฟกต์ Thorn ให้กับศัตรู แล้วใช้ "Wild Bloom" เพื่อระเบิด Thorn ทำดาเมจแก่เป้าหมายทั้งหมดในระยะ 10 เมตรพร้อมกับการรักษา ทริกสำคัญคือการใช้ทักษะ "Final Light Wheel" ซึ่งหากสกิลที่ไม่ใช่การโจมตีปกติคริติคอล จะลดเวลาคูลดาวน์ของ "Unrestrained Seed" ลง 1 วินาที (ทำงานทุก 3 วินาที) เพื่อเพิ่มความถี่ในการโจมตี สำหรับค่าสถานะ ควรเพิ่ม Intelligence ถึง 50% (เพิ่มดาเมจและรักษา), Mastery 30% (เพิ่มความเสียหายธาตุของป่า), และ Luck 25%+ (เพิ่มโอกาสในการทริกเกอร์สกิล) ในการต่อสู้กับมอนสเตอร์กลุ่ม ควรใช้สกิล "Thorn" กับมอนสเตอร์ระดับ Elite สำหรับการต่อสู้กับบอส ควรเตรียมพลังงานไว้สำหรับการใช้ "Nature Shield" เพื่อสร้างโล่ที่มีพลังโจมตี 50% และทริกเกอร์การรักษาเมื่อถูกโจมตี

แนวทาง Healing Flow ขึ้นอยู่กับการรักษาและการคาดการณ์สกิล การเล่นแบบมาตรฐานคือเริ่มต้นด้วยการใช้ "Nature Protection" เพื่อสร้างโล่ให้กับเพื่อนร่วมทีมที่เหลือพลังชีวิตน้อย → ใช้ "Regeneration Pulse" เพื่อรักษาแบบกลุ่ม → ใช้ "Forest Prayer" ในการรักษาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่กดดัน ทักษะที่ควรมีคือ "Cure Breath" (เพิ่มโอกาสในการกระเด้งการรักษา 1% ต่อทุกๆ 2% ของ Luck) และ "Regeneration Bud" สำหรับค่าสถานะ ควรเน้น Mastery 70% (เพิ่มปริมาณการรักษาโดยตรง), Intelligence 45% (ประโยชน์พื้นฐาน), และ Haste 20%+ (ลดเวลาในการキャสต์สกิล) ในดันเจี้ยน ควรทำการอ่านสกิลของบอส เช่น ระหว่างการต่อสู้กับ "Lava Lord" ควรใช้สกิล "Flourishing Hope Barrier" เมื่อสกิล "Rain of Fire" อ่านคำที่สาม เพื่อให้โล่ลดความเสียหาย 60% และการรักษาอย่างต่อเนื่อง ทนทานต่อการโจมตีที่แรง ให้ระวังการรักษาที่หยุดชะงักโดยการเก็บพลังงานไว้ 80 หน่วย การโจมตีปกติครั้งที่สี่สามารถเติมพลังงาน 15 หน่วย

สำหรับการฟาร์มดันเจี้ยนประจำวันหรือการแข่งขันในสนามประลอง ควรใช้แนวทาง Punishment Flow เช่น ในการต่อสู้กับอาชีพ Assassin ใช้ "Thorn" เพื่อลดความเร็วของเป้าหมาย แล้วใช้ "Nature Shield" ตอบโต้ ในดันเจี้ยนที่ยากเช่น "Abyssal Colossus" ควรเลือกแนวทาง Healing Flow ในเฟส P2 ใช้สกิลรักษาแบบกลุ่ม 0.5 วินาทีก่อนที่บอสจะตีพื้น พร้อมกับสร้างโล่ให้กับ DPS เพื่อป้องกันการตายทันที

การเลือกแนวทางการเล่นของ Forest Speaker ควรปรับตามความต้องการของดันเจี้ยน แต่ไม่ว่าจะเป็นแนวทางใด จังหวะการใช้สกิลสุดท้ายมีความสำคัญมาก ผลลดความเสียหาย 60% สามารถพลิกสถานการณ์ได้ เมื่อเข้าใจรายละเอียดเหล่านี้แล้ว Forest Speaker ไม่เพียงแค่จะเป็นตัวรักษาที่ดีในทีมเท่านั้น แต่ยังสามารถเสริมดาเมจหรือควบคุมในช่วงเวลาสำคัญได้ ทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถของตัวละครสนับสนุนได้อย่างเต็มที่