หลังจากที่มีการอัปเดตในฤดูกาล S2 ของ Dragon's Breath: Divine Silence มีตัวละครใหม่หลายตัวถูกเพิ่มเข้ามา ทำให้เกิดแนวคิดในการสร้างกลยุทธ์ใหม่ๆ วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเล่นทีม "Burning" ใน Dragon's Breath: Divine Silence ระบบ "Burning" ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วด้วยความสามารถในการทำดาเมจหมู่และกลไกที่เชื่อมโยงกัน ทำให้เป็นตัวเลือกที่มีศักยภาพในเวอร์ชันปัจจุบัน บทความนี้จะครอบคลุมแนวคิดในการสร้างทีม Burning ตัวละครสำคัญและกลไกแทคติก เพื่อให้ผู้เล่นมีข้อมูลที่สามารถใช้ในการจัดทีมและการต่อสู้

หัวใจของทีม Burning คือการใช้สถานะ "Ignite" บนศัตรู และเปลี่ยนสถานะนี้เป็น "Burning" ในเวลาที่เหมาะสม จากนั้นใช้กลไก "Explosion" เพื่อสร้างดาเมจพื้นที่ ในระบบนี้ ตัวละครที่สำคัญที่สุดคือ "Defiler" สกิลที่สามของ Defiler คือ "Burn Everything" ซึ่งเป็นแกนกลางของการวนรอบการโจมตีของทีม Burning ซึ่งสามารถทำดาเมจธาตุไฟให้กับศัตรูทั้งหมดพร้อมกับผล Ignite 50% ที่สำคัญที่สุดคือมันมีกลไกการระเบิดทันที ซึ่งสามารถใช้ครึ่งหนึ่งของจำนวนชั้น Burning ที่มีอยู่บนเป้าหมายเพื่อแปลงเป็นดาเมจเพิ่มเติม กลไกนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความสามารถในการทำดาเมจทันทีเท่านั้น แต่ยังมอบช่องทางสำหรับการทำดาเมจระเบิดที่มั่นคงให้กับทีมด้วย

สกิลที่สองของ Defiler ยังสามารถใช้ผล Ignite 50% บนเป้าหมายที่อยู่ในระยะทางที่กำหนด ทำให้เป็นขั้นตอนแรกในการสร้างสถานะ Burning ส่วนสกิลที่หนึ่งมีกลไกสะสมแบบพาสซีฟ: เมื่อโจมตีศัตรูที่อยู่ในสถานะ Burning จะเพิ่มพลังของสกิล หากไม่มีศัตรูใดอยู่ในสถานะ Burning จะเพิ่มพลังโจมตีของตัวเอง ซึ่งสามารถสะสมได้สูงสุดถึง 50% กลไกนี้ทำให้ Defiler มีความสามารถในการทำดาเมจที่มั่นคงในทุกๆ ระยะของเกม

ในการจับคู่ทีม เราขอแนะนำให้ใช้ตัวละคร "Karlver" ซึ่งมีความสามารถในการสร้างดาเมจธาตุไฟและทำให้เกิดสถานะ Ignite สกิลที่สามของ Karlver มีโบนัสความแม่นยำสูงและสามารถทำดาเมจธาตุไฟสี่ครั้งต่อศัตรูทั้งหมด พร้อมกับผล Ignite สะสม 75% ทำให้เขาเป็นตัวสนับสนุนที่จำเป็นในการสร้างสถานะ Ignite สกิลที่สองของเขาเป็นการโจมตีธาตุไฟหกครั้ง พร้อมกับผล Ignite 120% ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนชั้น Burning ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนสกิลที่หนึ่งจะเพิ่มผล Ignite ตามจำนวนชั้น Burning ที่มีอยู่บนเป้าหมาย และทำดาเมจเพิ่มเติมเมื่อสถานะ Burning ถูกเปลี่ยนแปลง ทำให้สกิลนี้มีความสอดคล้องกับกลไกหลัก

ในตำแหน่งสนับสนุน เราขอแนะนำให้ใช้ "Durim" เป็นตัวเพิ่มดาเมจและความสามารถในการเสริมดาเมจ สกิลที่สามของ Durim นอกจากจะมีดาเมจธาตุไฟหลายช่วงแล้ว ยังสามารถใช้สถานะ "Scorch" ตามจำนวนชั้น Burning ที่มีอยู่บนศัตรู Scorch จะเพิ่มความเสียหายที่ศัตรูรับ 2% ซึ่งทำงานร่วมกับกลไก Burning อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เพิ่มขีดจำกัดการโจมตีของทีม สกิลที่สองของเขาเป็นดาเมจธาตุไฟในระยะทางที่กำหนดพร้อมกับผล Ignite 25% ส่วนสกิลที่หนึ่งมีกลไกการระเบิดเมื่อสถานะ Burning ถูกกำจัด ทำให้สามารถใช้เป็นวิธีการเสริมดาเมจและการจบการต่อสู้

จังหวะการโจมตีของทีม Burning สามารถแบ่งออกเป็นสามระยะ: Ignite, Conversion, และ Explosion ผ่านการทำงานร่วมกันของตัวละครหลายๆ ตัวในการสะสมสถานะ จนกระทั่ง Defiler ทำการระเบิดและสร้างดาเมจพื้นที่ ในสภาพแวดล้อมของการต่อสู้หมู่ กลไกนี้แสดงให้เห็นถึงความมีประสิทธิภาพในการสร้างดาเมจพื้นที่และผลกระทบแบบลูกโซ่ ทำให้สามารถสร้างดาเมจที่มากกว่าปกติเมื่อศัตรูอยู่รวมกัน ซึ่งเหมาะสำหรับการต่อสู้ในดันเจี้ยนและการโจมตีศัตรูที่มีจำนวนมาก
นี่คือเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีการเล่นทีม Burning ใน Dragon's Breath: Divine Silence ทีม Burning ในเวอร์ชันปัจจุบันมีข้อดีมากมาย เช่น โครงสร้างที่ชัดเจน กลไกที่ครบวงจร และการจัดกลุ่มการโจมตี การสร้างทีมมีความยากง่ายพอควร จังหวะชัดเจน และการควบคุมราบรื่น ทำให้เป็นระบบที่ควรลองสำหรับผู้เล่นที่ต้องการประสิทธิภาพในการต่อสู้และความสวยงามในการนำเสนอ สำหรับผู้เล่นที่มองหาทั้งความยุทธศาสตร์และความสวยงาม ทีม Burning เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม