Paladin Shield ใน Star Resonance เป็นคลาสที่สามารถทำดาเมจและทนทานได้ ซึ่ง "แสงโล่" ถือเป็นสไตล์ที่นักเล่น Tank ที่ชอบการทำดาเมจจำนวนมากชื่นชอบ แล้ววิธีการเล่น Paladin Shield ใน Star Resonance คืออะไรกัน? ความจริงแล้ววิธีการเล่นหลักคือการละทิ้งการโจมตีด้วยโล่ และเปลี่ยนมาใช้การโจมตีแบบ Vanguard เป็นหลัก โดยสร้างระบบรอบ "Lightforged Barrier" (เรียกสั้นๆ ว่า แสงโล่) สไตล์นี้เหมือนกับ Tank ที่เน้นการทำดาเมจ มีความสามารถในการรักษาตัวเอง และเพิ่มความทนทานผ่านการซ้อนแสงโล่ เนื่องจากแสงโล่สามารถดูดซับความเสียหายได้ แต่เมื่อถูกโจมตีจะลดจำนวนลง ดังนั้นการอยู่รอดขึ้นอยู่กับการปล่อยสกิลอย่างต่อเนื่อง ขาดกลไกการลดความเสียหายที่มั่นคงแบบของ Tank ป้องกัน ทำให้การเผชิญหน้ากับกลไกแรงหรือบอสที่ทรงพลังอาจทำให้การอยู่รอดยากขึ้น

ลักษณะเฉพาะของแสงโล่:
การเปลี่ยนแปลงหลักในสไตล์แสงโล่คือการเปลี่ยนจากการโจมตีด้วยโล่เป็นการโจมตีแบบ Vanguard ทุกครั้งที่ปล่อยสกิลจะใช้ Holy Command หนึ่งครั้ง ทำดาเมจและได้รับสองชั้นของแสงโล่ ซึ่งเป็นสกิลหลักในการสะสมชั้นของแสงโล่ การโจมตีปกติแทบไม่มีประโยชน์ ใช้เฉพาะเมื่อขาดทรัพยากร แสงโล่สูงสุดที่ 10 ชั้น แต่ละชั้นเพิ่ม HP สูงสุด 2% อยู่ได้ 25 วินาที เมื่อถูกโจมตีจะลดชั้น และเวลาใหม่จะถูกกำหนดโดยการสะสมชั้นใหม่ กลไกนี้ทำให้สไตล์แสงโล่ต้องปล่อยสกิล Vanguard หรือ Sacred Sword อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษา "กำแพงโล่" ของตนเอง แตกต่างจากสไตล์ป้องกันที่เน้นการลดความเสียหายและการทนทาน แสงโล่เน้นการควบคุมจังหวะและการหมุนเวียน

สกิลพรสวรรค์:
สำหรับพรสวรรค์ ที่ระดับแรก "Haste Command" กำหนดให้คุณสมบัติ Haste มีผลตอบแทนสูงมากในสไตล์แสงโล่ ทำให้ลด CD ของสกิลและเพิ่มประสิทธิภาพของการหมุนเวียน ดังนั้นควรสะสม Haste เป็นอันดับแรก ส่วนคุณสมบัติรองเลือก Crit เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำดาเมจ นอกจากนี้ Versatility ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะ Paladin Shield สามารถรับประโยชน์จากความเสียหายเพิ่ม ความเสียหายน้อยลง และการรักษาเพิ่ม ทำให้มีความเข้ากันได้สูง
Paladin Shield มีทรัพยากรสามประเภท: Holy Command, Light Energy, และ Light Shield ทุกครั้งที่ใช้ Holy Command จะฟื้นฟูพลังงาน 10 หน่วย และได้รับ Light Shield ที่เท่ากับ 30% ของพลังโจมตี (สามารถดูดซับความเสียหาย 50%) พลังงานแสงสูงสุด 100 หน่วย เป็นทรัพยากรพื้นฐานในการปล่อยสกิลเช่น "Judgment" Light Shield เป็นโล่เสริม เป็นกลไกป้องกันแบบพาสซีฟ "Lightforged Barrier" ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับสไตล์แสงโล่ เป็นแกนกลางในการสะสมชั้น ใช้เพื่อเพิ่ม HP สูงสุดและความแข็งแกร่งของสกิล เมื่อมีการหมุนเวียนที่ราบรื่น ผู้เล่นจะอยู่ในวงจรป้อนกลับที่ทำดาเมจและเสริมตัวเองอย่างต่อเนื่อง

การผสมสกิล:
สำหรับการผสมสกิล แนะนำให้ใช้ [Judgment], [Sacred Sword], [Cold Pursuit] เป็นประจำ สกิลที่สี่เลือกระหว่าง [Light Determination] และ [Light Guard] Judgment เป็นสกิล AOE ที่ทำดาเมจและฟื้นฟู HP หลังจากใช้พลังงานจะฟื้นฟู HP ที่สูญเสียไป 30% อย่างน้อย 5% Sacred Sword เป็นสกิลสำคัญในการสะสมชั้นของแสงโล่ ให้ชั้นแสงโล่ 5 ชั้นเมื่อโดนเป้าหมาย พร้อมกับทำดาเมจ Cold Pursuit เป็นสกิลระเบิด ใช้แสงโล่สูงสุด 8 ชั้นสร้างวงดาเมจ ฟื้นฟู HP และเพิ่มพลังโจมตีของ Vanguard สร้างช่วงเวลาที่มีดาเมจสูง Light Determination เป็นสกิลเริ่มต้น ลดความเสียหายเล็กน้อยและฟื้นฟูพลังงาน Light Guard คือสกิลลดความเสียหาย 10 วินาทีและฟื้นฟู HP หนึ่งครั้ง สามารถช่วยรักษาชีวิตในสถานการณ์ที่จำเป็น
บางสกิลรอง เช่น โยนโล่ ยังมีคุณค่าอยู่บ้าง สามารถลดความเสียหายที่คุณได้รับ แต่แนะนำให้พึ่งพาสกิลหลักในการสร้างวงจรป้อนกลับ ส่วนสกิลเช่น วงแสง ที่มีการรักษาเล็กน้อยและทำดาเมจ AOE ไม่ค่อยมีประโยชน์ ไม่แนะนำให้ใช้ ให้พึ่งพาสกิลที่ได้จากพรสวรรค์ก็เพียงพอ

เทคนิคการเล่น:
ในด้านเทคนิคการเล่น วงจรป้อนกลับของสไตล์แสงโล่ไม่ซับซ้อน แต่ต้องการการดำเนินการบ่อยๆ สำคัญคือการรักษาชั้นของแสงโล่ให้สูง เพื่อให้สามารถทนทานต่อความเสียหายอย่างต่อเนื่อง ระหว่างช่วงระเบิด ใช้ Cold Pursuit ทำการโจมตีด้วย Vanguard และ Sacred Sword เพื่อทำดาเมจและฟื้นฟู HP อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ระวังไม่ให้พลังงานแสงเต็ม ปล่อย Judgment ทำดาเมจและฟื้นฟู HP ทันท่วงที เมื่อขาดทรัพยากร ใช้สกิลใหญ่ "Awe of the Light" เพื่อฟื้นฟูพลังงานและ Holy Command อย่างรวดเร็ว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการระเบิดในรอบถัดไป
สิ่งที่ต้องระวังคือ แสงโล่เป็นกลไกที่ "ยิ่งโจมตียิ่งลดชั้น" ซึ่งขัดกับหลักการของ Tank บางประการ ยิ่งโจมตีมาก ยิ่งลดชั้น ทำให้กลายเป็นอ่อนแอ ดังนั้นผู้เล่นต้องมีจังหวะการเล่นที่เร็ว และปล่อยสกิลให้แน่น เพื่อรักษาผลลัพธ์ในการป้องกัน นอกจากนี้ ด้วยการเชื่อมโยงระหว่างพรสวรรค์ที่ซับซ้อน และเงื่อนไขการทริกเกอร์สกิลที่ซับซ้อน รวมถึง UI ของเวอร์ชันปัจจุบันที่ไม่ชัดเจนในการแจ้งเตือนบัฟ ทำให้ต้องคอยตรวจสอบแถบสกิลและสถานะอย่างต่อเนื่อง การเล่นที่วุ่นวายเป็นเรื่องปกติ แม้ว่าวิธีการเล่นจะไม่ยาก แต่ต้องการการตัดสินใจและดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

โดยรวมแล้ว Paladin Shield แสงโล่ใน Star Resonance เป็นสไตล์ที่มีการออกแบบอย่างละเอียด รวมเอาการทำดาเมจ การป้องกัน และการรักษาไว้ด้วยกัน มีช่วงเวลาที่มีดาเมจสูง แต่การทนทานพื้นฐานน้อย ต้องการจังหวะที่เร็ว และความถี่ในการกดสกิลสูง เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชอบการทำดาเมจอย่างสนุกสนาน และไม่กลัวการสลับสกิล แม้ว่าจะต้องใช้ทักษะในการเล่นมาก แต่เมื่อชำนาญแล้ว สามารถเป็น Tank ที่สามารถทำดาเมจและทนทานได้ในดันเจี้ยน หากคุณมองหาความรู้สึกในการทำดาเมจ และยินดีที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายในการเล่น แสงโล่คือสิ่งที่ควรลอง